ถ้าพระเจ้าสร้างจักรวาล แล้วใครสร้างพระเจ้า
ถ้ามีคนยกประเด็นว่า”พระเจ้าสร้างจักรวาล”
ก็มักมีคนถามโต้ว่า”แล้วใครสร้างพระเจ้า?”
ในประเด็นเหล่านี้
มีนักวิทยาศาสตร์ไม่ใช่น้อย
ที่พยายามพิสูจน์หาความจริง
และอธิบายด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์
- ข้อมูลที่ 1
- กฎฟิสิกส์ที่ช่วยอธิบาย
”กฎเทอร์โมไดนามิกส์”
ซึ่งอาจรวบรัดสรุปได้ว่า
เมื่อดาวฤกษ์ต่างๆเผาผลาญพลังงานจนหมด
จักรวาลก็จะถึงกาลสูญสลายคือถึงจุดจบ
ทุกสิ่งที่มีจุดจบย่อมมีจุดเริ่มต้น
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องกันว่า
จักรวาลมีจุดกำเนิด
เมื่อประมาณ14,000ล้านปีมาแล้ว - ข้อมูลที่ 2
- ทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์
ช่วยให้พบความจริงว่าเวลาไม่ใช่สิ่งที่สัมบูรณ์
ซึ่งแย้งกับความเข้าใจเดิมของมนุษย์
เดิมมนุษย์เข้าใจว่า
เวลาไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดสิ้นสุด
เวลาในที่ใดๆในจักรวาลก็น่าจะเหมือนกัน
แต่ในความเป็นจริง
จักรวาลและเวลาก่อกำเนิดพร้อมกัน
หรือเวลาและจักรวาลมีจุดเริ่มต้น
โยงใยกันโดยบิ๊กแบง
เรื่องนี้สอดคล้องกับที่ฮับเบิลค้นพบ - ข้อมูลที่ 3
ทฤษฎีของไอน์สไตน์ได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้อง
โดยนำนาฬิกาอะตอมมาสองเรือน
เรือนหนึ่งอยู่บนโลก
อีกเรือนใส่ในจรวดที่มีความเร็วสูง
จากการทดลองนี้พบว่า
นาฬิกาที่อยู่ในจรวดจะเดินช้ากว่า
หรือเมื่อนำสารกัมมันตรังสีใส่ในจรวด
ที่เดินทางด้วยความเร็วสูง
พบว่าการสลายตัวสารนั้นจะช้าลง
การวิจัยทดลองนี้ช่วยให้พบความจริงว่า
เวลาจะเดินช้าลงเมื่อเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง
ยิ่งเข้าใกล้ความเร็วแสงมากเท่าใด
เวลายิ่งช้าลงเท่านั้นและ
หากเราเคลื่อนที่ด้วยความเร็วของแสง
เวลาของเราจะหยุดนิ่ง
เราจะไม่แก่ลงเลย - ข้อมูลที่ 4
เวลาไม่เพียงยืดหดได้ขึ้นกับความเร็วเท่านั้น
เวลายังถูกกำหนดด้วยแรงโน้มถ่วงด้วย
พบว่ายิ่งแรงโน้มถ่วงมากเวลายิ่งเดินช้าลง
นักวิทยาศาสตร์พบว่า
เวลาบนพื้นผิวดวงอาทิตย์
จะเดินช้ากว่าเวลาบนโลก
ประมาณ 67 วินาที ทุกๆหนึ่งปีที่ผ่านไป - ข้อมูลที่ 5
จักรวาลที่ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ
หรือปรากฎการณ์บิ๊กแบง
เมื่อพิจารณาย้อนกลับ
ไปสู่จุดเริ่มต้น
ณ.เวลาก่อนเริ่มต้นบิ๊กแบง
เอกภพหรือจักรวาลยังรวมตัวกัน
เป็นก้อนกลมที่มีขนาดเล็กมากๆ
เล็กลงไปอีกๆจนมีค่าเกือบเท่าศูนย์
ลิมิตเข้าใกล้ศูนย์
(หรือเป็นศูนย์)
ณ.จุดนี้
แรงโน้มถ่วงจะมากมหาศาล
จนดึงไปสู่ก่อนจุดเริ่มต้นของเวลา
คือไม่มีเวลาณ.ขณะนั้น - สรุปจากข้อมูลที่1-5
ทุกวันนี้เป็นที่แน่ชัดว่า
ทั้งเวลาและเอกภพมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ
ซึ่งต้องมีใครสักคนที่เป็นผู้ให้กำเนิด
ทั้งเวลาและจักรวาล
แต่นักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งเลี่ยง
ไม่ใส่ใจกับประเด็นนี้
แสวงหาผู้ที่ให้กำเนิดเวลา
เมื่อเราสนใจความจริงนี้
เราย่อมเห็นจริงได้ว่า
ผู้ที่ให้กำเนิดเวลานั้น
มิได้อยู่ในกรอบของเวลา
ผู้ที่ให้กำเนิดเวลา
ย่อมดำรงอยู่ก่อนจุดเริ่มต้นของเวลา
สิ่งที่น่ามหัศจรรย์
พระคัมภีร์ไบเบิล
ได้บันทึกไว้กว่า2000ปีมาแล้วว่า
พระเจ้าทรงดำรงอยู่
ก่อนหน้าจุดเริ่มต้นของเวลา
พระคัมภีร์กล่าวเรื่องนี้ไว้ถึงสองครั้ง
ทั้งที่ความรู้เรื่องจุดกำเนิดของเวลา
เพิ่งเกิดในฟิสิกส์ยุคใหม่
เมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้เอง
เนื่องจากมนุษย์ถูกกำหนดโดยกรอบของเวลา
จึงเป็นการยากที่มนุษย์จะเข้าใจ
ผู้ที่อยู่เหนือกาลเวลา
แต่พระวจนะพระคำของพระเจ้า
ก็ช่วยเปิดเผยความจริง
ช่วยให้มนุษย์ได้เข้าใกล้พระองค์มากขึ้น
ถ้าเราจะถ่อมใจลงฟังเสียงของพระเจ้า
เราก็จะรู้จักและเข้าใจพระองค์มากขึ้น
ได้ใกล้ชิดพระองค์มากขึ้นๆ
พระคัมภีร์ 2 ข้อที่กล่าวอ้างถึง
“ก่อนเริ่มต้นของกาลเวลา”
มีดังต่อไปนี้
- ข้อที่ 1
“ผู้ทรงช่วยเราให้รอด และทรงเรียกเราด้วยการทรงเรียกอันบริสุทธิ์ ไม่ใช่ตามการกระทำของเรา แต่ตามพระประสงค์และพระคุณของพระองค์เอง คือพระคุณที่ประทานแก่เราในพระเยซูคริสต์ก่อนเริ่มต้นของกาลเวลา”
2 ทิโมธี 1:9 THSV11 - ข้อที่ 2
“ซึ่งอยู่บนความหวังของชีวิตนิรันดร์ ที่พระเจ้าผู้ไม่ตรัสมุสาทรงสัญญาไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นของกาลเวลา”
ทิตัส 1:2 THSV11
_________________________________
บันทึกตอนท้าย:
เนื้อหาและข้อมูลส่วนใหญ่คัดลอกหรือดัดแปลงจากในหนังสือ “พระเจ้ากับวิทยาศาสตร์” โดย ผศ.นพ.ภากร จันทนมัฏฐะ หนังสือนี้จัดจำหน่ายโดย สถาบันคริสเตียนศึกษาและพัฒนาคริสตจักร